Check In 10 ที่เที่ยวญี่ปุ่นแนะนำ รอบเกาะคิวชู
Check In 10 ที่เที่ยวแนะนำ รอบเกาะคิวชู บอกเลยว่าน่าไปทุกที่ครับ
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu )เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะใหญ่ฮอนชู ประกอบไปด้วยเมืองท่าสำคัญๆหลายแห่ง โดยมีเมืองหลวงคือจังหวัดฟูกุโอกะ(Fukuoka) อีกทั้งบนเกาะคิวชูยังมีแหล่งท่องเที่ยวครบทุกรูปแบบ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ทั้งเมืองน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์พร้อมกับวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นหลากหลากหลาย, สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ, วัด, ศาลเจ้า, สวนสนุก, สวนดอกไม้, ร้านอาหาร, ชมซากุระ, ชมใบไม้เปลี่ยนสี, ท่านสามารถเพลิดเพลินและประทับใจกับการท่องเที่ยวคิวชู โดย 10 สถานที่ที่แนะนำว่าต้องไป มีดังนี้
1. Huis Ten Bosch สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู อยู่ใน จ.นางาซากิ สถานที่จำลองเอาบรรยากาศหมู่บ้านฮอลแลนด์ในยุโรปมาไว้ที่นี่ มีการจัดอีเวนท์น่าสนใจมากมายตลอดทั้งปี มีทั้งร้านอาหารและโรงแรม อีกทั้งยังเต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปสวยๆ รวมถึง “Waterfall of Light” ที่มีการประดับไฟถึง 1,300 และยังมี “Henn-na Hotel” โรงแรมที่พนักงานเป็นหุ่นยนต์อยู่ภายในบริเวณสวนสนุกอีกด้วย
2. Kumamoto Castle (ปราสาทคุมาโมโตะ) สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ เมืองคุมาโมโตะ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีอายุยาวนานกว่า 400 ปี ตัวปราสาทมีความงดงามและยิ่งใหญ่ ทั้งในบริเวณรอบ ๆ ยังมีหลายอาคาร ทั้งยังปลูกต้นซากุระไว้รอบปราสาทมากถึง 800 ต้น จึงที่บริเวณปราสาทแห่งนี้สวยงามมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และกลายเป็นจุดชมซากุระยอดฮิตแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
3.หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) ทางตอนเหนือในจังหวัดมิยะซะกิ (Miyazaki) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเสริมดวงชะตายอดนิยมในหมู่สาวๆ หน้าผาชันสูงเฉลี่ย 80 เมตร (บางช่วงสูงมากถึง 100 เมตร) ทอดตัวเป็นแนวยาวถึง 7 กิโลเมตรจนกลายเป็นหุบเขาที่งดงามประทับใจ
4.คาวาจิ ฟูจิ การ์เด้น (Kawachi Fuji Garden) ตั้งอยู่บนเนินเขาทางตอนใต้ของคิตะคิวชู (Kitakyushu) จ.ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ภายในสวนแห่งนี้มีดอกวิสทีเรียมากกว่า 22 สายพันธุ์ พร้อมบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร สวนแห่งนี้เปิดให้ผู้คนทั่วไปเข้าชมปีละ 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งในช่วงระหว่างฤดูดอกวิสเทอเรียบานในฤดูใบไม้ผลิ และอีกครั้งในช่วงระหว่างฤดูใบไม้ร่วง
5.ศาลเจ้ายูโตคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine) ตั้งอยู่ในเมืองคาชิมะ (Kashima) จังหวัดซากะ (Saga) โดยศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมักจะนิยมมาสักการะขอพรเพื่อให้ทั้งการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรและธุรกิจต่างให้มีความสำเร็จ ที่นี่ยังถือเป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆของเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยามที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง และช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงที่บอกเลยว่าสวยตะลึง มีอีกจุดที่เมื่อมาแล้วต้องไปเช็กอินก็ตรงส่วนหน้าศาลเจ้าก็ยังมีสะพานสีแดงคู่กับแม่น้ำสายเล็กๆเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามเลยทีเดียว
6. ภูเขาอินาสะ ( Mount Inasa ) เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวเมืองยามค่ำคืน ที่สวยงาม ติดอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ จังหวัดนางาซะกิ ด้านบนมีหอชมทิวทัศนที่ตั้งอยู่บนความสูง 333 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สามารถชมทิวทัศน์แบบพาโนราม่าของนางาซากิ และในวันที่อากาศแจ่มใส คุณอาจมองเห็นได้แม้กระทั่งภูเขาอุนเซ็น และหมู่เกาะอะมะคุสะที่อยู่ไกลลิบ ๆ รวมถึงหมู่เกาะโกโตะอันเงียบสงบของนางาซากิด้วย
7. สัมผัสประสบการณ์ออนเซ็นทรายร้อนที่เมืองอิบุสึกิ อยู่ที่จังหวัดคาโกชิม่า เป็นออนเซ็นลักษณะที่หาได้ยากในโลก โดยเป็นออนเซ็นที่เกิดจากน้ำพุร้อนใต้พื้นดินที่มีอุณหภูมิสูงถึง 102 องศาเซลเซียส ทำให้หาดทรายมีความอุ่นตามธรรมชาติ โดยการแต่งชุดยูกะตะแล้วไปนอนใต้ทรายร้อนที่กลบถึงคอเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ว่ากันว่าช่วยทำความสะอาดร่างกายได้ การอบในแต่ละครั้งจะต้องอบราวๆ 10 นาที พอให้เหงื่อไหลออกมาประมาณหนึ่ง เมื่อแช่ออนเซ็นทรายเสร็จแล้วเราก็จะรู้สึกสบายตัว ผิวพรรณจะสดใสขึ้น เลือดก็ไหลเวียนได้ดี เป็นการดีท็อกซ์ร่างกายที่ดีมากเลยทีเดียว
8. บ่อนรกจิโกกุ เมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ เป็นบ่อน้ำพุร้อนหลากสีมีทั้งหมด 8 บ่อ ถือเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของเบปปุ คนที่นี่เรียกว่า จิโกกุ เมกุริ (Jigoku Meguri) หรือบ่อนรกนั่นเอง แต่ละบ่อก็จะมีลักษณะและสีของน้ำที่แตกต่างกันไป ซึ่งล้วนเกิดจากธรรมชาติมาแล้วกว่าพันปี
9. หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอร์รัล (Yufuin Floral Village) อยู่ในเมืองยุฟุอิน จังหวัดโออิตะ เป็นหมู่บ้านจำลองสไตล์ยุโรป มีกลิ่นอายยุโรปโบราณ บ้านอิฐที่แสนคลาสสิคเรียงรายอยู่บนถนนสายเล็กๆ ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ถือเป็นไฮไลท์หนึ่งประจำเมืองยูฟุอิน ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งเหมาะแก่การเดินเล่นและถ่ายรูป เพราะให้บรรยากาศแบบสบายๆ และที่ห้ามพลาดหรือร้านขนมของกินอร่อยๆ ในบริเวณนั้น บอกเลยว่าน่ากินน่าซื้อทั้งนั้นเลยล่ะครับ
10. สวนซุยเซนจิ(Suizenji Jojuen) นับเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของจังหวัดคุมาโมโต้ สร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1586-1641 โดยท่าน Hosokawa Tadatoshi ไดเมียวผู้ปกครองแคว้นฮิโกะ (Higo) ผู้ที่ทรงอำนาจมากในยุคนั้น จุดเด่นของสวนนี้คือมีบ่อขนาดใหญ่ตรงกลางสวน ที่หล่อเลี้ยงด้วยน้ำพุใต้ดินธรรมชาติจากภูเขาไฟอะโสะ (Aso) ใสและสะอาดมาก เป็นที่อาศัยของเหล่าสัตว์น้ำอย่างปลาคาร์ปแหวกว่ายอยู่ทั่วบริเวณบ่อ รวมทั้งนกกระเรียน นกเป็ดน้ำ และสะพานหินที่ใช้ข้ามบ่อน้ำแห่งนี้มีอายุ 100 กว่าปี หรือตั้งแต่ยุคสมัยเมจิ เป็นสวนที่มีความงดงามมากๆ
ด้านในมีร้านน้ำชาหลังคามุงจากเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของสวน ลองสั่งชาสักชุดและเลือกขนมหวานที่คุณต้องการทานคู่กับชามัทฉะชงมือ จะนั่งรับประทานภายในร้านน้ำชา หรือนั่งโต๊ะด้านนอกเองก็น่ารื่นรมย์ไม่แพ้กัน เพราะคุณจะสามารถชมวิวของสวนและสระน้ำรอบ ๆได้ เมื่อมาคิวชู แนะนำว่าควรค่าแก่การมาเที่ยวชมซักครั้งครับ
CompaxWorld เที่ยวญี่ปุ่น
เจาะลึกทุกมุม คุ้มค่าทุกทริป
สอบถามเพิ่มเติม : 02-169-1766
Mobile : 062-391-2666
Line | @compaxworld
เลขที่ใบอนุญาต 11/08451
ทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านญี่ปุ่นมากกว่า 20 ปี
จองแพ็คเกจท่องเที่ยวระดับพรีเมียมไปญี่ปุ่นกับเราวันนี้ ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวแบบเจาะลึกทางด้านวัฒนธรรมในแบบฉบับชาวญี่ปุ่นที่คุณจะไม่มีวันลืม