
รวมที่เที่ยวจังหวัดไอจิ ครบทุกสไตล์ ตั้งแต่สายวัฒนธรรมถึงธรรมชาติ
ถ้าพูดถึง ที่เที่ยวจังหวัดไอจิ หลายคนอาจนึกถึงแค่เมืองนาโกย่า เมืองใหญ่อันดับสี่ของญี่ปุ่นที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของภูมิภาคชูบุ แต่ความจริงแล้ว ไอจิเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ทันสมัย ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกสไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชอบเดินชมปราสาทเก่าแก่ สนใจเรื่องราวของซามูไร หลงใหลในธรรมชาติ หรืออยากสัมผัสความโรแมนติกของทุ่งดอกไม้ ไอจิพร้อมต้อนรับคุณเสมอ
เมืองนาโกย่า ซึ่งเป็นเมืองหลักของจังหวัดไอจิ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ ที่เที่ยวจังหวัดไอจิ หลายแห่ง โดยเฉพาะสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของเมือง หรือ ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta Jingu) ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,900 ปี นอกจากนี้ ในตัวเมืองยังมีย่านช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิงที่ทันสมัยอย่าง ย่านซากาเอะ (Sakae) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และคาเฟ่ที่เหมาะกับการพักผ่อน
หากคุณเป็นสายธรรมชาติและต้องการสัมผัสเสน่ห์ของไอจิที่มากกว่าความเป็นเมือง ที่เที่ยวจังหวัดไอจิ ก็มีสถานที่สวยงามให้เลือกมากมาย อย่างเช่น สวนโครังเค (Korankei) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยวิวทิวทัศน์ของต้นเมเปิลนับพันต้นที่เปลี่ยนเป็นสีแดงส้มสดใสในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือจะเป็น สวนดอกไม้นาบานะ (Nabana no Sato) สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ที่มีทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลให้ชมตลอดปี และไฮไลต์สำคัญคือเทศกาลไฟประดับฤดูหนาวที่ตื่นตาตื่นใจ
นอกจากธรรมชาติและวัฒนธรรมแล้ว ที่เที่ยวจังหวัดไอจิ ยังเหมาะสำหรับคนที่หลงใหลในเทคโนโลยี เพราะที่นี่เป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ยานยนต์ระดับโลกอย่างโตโยต้า และมี พิพิธภัณฑ์โตโยต้า (Toyota Museum) ที่จัดแสดงเรื่องราวของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคแรกเริ่มไปจนถึงนวัตกรรมล้ำยุคของอนาคต
หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยวสไตล์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร ที่เที่ยวจังหวัดไอจิ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ซ่อนอยู่ เช่น เกาะซากุชิมะ (Sakushima) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "เกาะศิลปะ" เต็มไปด้วยงานศิลปะกลางแจ้งที่กลมกลืนกับธรรมชาติ และ พิพิธภัณฑ์รถไฟ SCMAGLEV ที่นำเสนอวิวัฒนาการของรถไฟความเร็วสูงจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
วันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจ 10 ที่เที่ยวจังหวัดไอจิ ที่ต้องไปให้ได้ พร้อมเคล็ดลับพิเศษในการเดินทางเพื่อให้คุณสามารถวางแผนทริปได้อย่างคุ้มค่า เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปออกเดินทางสู่ไอจิกันเลย!
แนะนำ 10 ที่เที่ยวจังหวัดไอจิ
1. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) – แลนด์มาร์กสำคัญของไอจิ
ปราสาทนาโกย่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมา ที่เที่ยวในนาโกย่า ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่สมัยโชกุนโทคุกาวะ จุดเด่นของที่นี่คือปลาโลมาสีทองบนหลังคาปราสาท ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ภายในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองนาโกย่า และมีสวนสวยที่เหมาะกับการชมซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
เคล็ดลับพิเศษ : หากมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แนะนำให้มาในช่วงบ่ายเย็นเพื่อชมแสงอาทิตย์ตกกระทบตัวปราสาท ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สวยที่สุด
2. ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta Jingu) – ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์อายุกว่า 1,900 ปี
ศาลเจ้าอัตสึตะเป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ของญี่ปุ่น เชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐานของ "ดาบคุซานางิ" หนึ่งในสามสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้เงียบสงบ และเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวสายมูที่ต้องการขอพรเรื่องความสำเร็จและความรัก
เคล็ดลับพิเศษ : หลังจากไหว้พระเสร็จ อย่าลืมลอง “คิชิเมน” อุด้งเส้นแบนที่เป็นของขึ้นชื่อของศาลเจ้าแห่งนี้
3. พิพิธภัณฑ์โตโยต้า (Toyota Museum) – สวรรค์ของคนรักเทคโนโลยี
ที่นี่เป็นหนึ่งในที่เที่ยวในนาโกย่า เมืองที่เป็นบ้านเกิดของโตโยต้า หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์โตโยต้า จึงเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และนวัตกรรมยานยนต์ มีการจัดแสดงรถยนต์ตั้งแต่รุ่นคลาสสิกจนถึงรถยนต์ไฮเทคในปัจจุบัน
เคล็ดลับพิเศษ : ที่นี่มีโซนทดลองขับรถจำลองแบบสมจริง เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบญี่ปุ่น
4. ย่านซากาเอะ (Sakae) – ศูนย์กลางช้อปปิ้งและความบันเทิง
หากคุณเป็นสายช้อปปิ้ง ย่านซากาเอะ คือจุดหมายที่ห้ามพลาด เพราะเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านค้าแฟชั่น และร้านอาหารเด็ดๆ รวมถึงแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง หอคอยนาโกย่า (Nagoya TV Tower) และ โอเอซิส 21 (Oasis 21) ที่เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม
เคล็ดลับพิเศษ : ใครอยากได้มุมถ่ายรูปสวยๆ แนะนำขึ้นไปชมวิวเมืองนาโกย่าจากหอคอยนาโกย่า โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่ไฟเมืองสวยมาก
5. หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) – มรดกโลกที่ต้องไปสักครั้ง
ถึงแม้จะอยู่นอกจังหวัดไอจิ แต่หลายคนที่มาเที่ยวไอจิมักจะเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ที่ขึ้นชื่อเรื่องบ้านทรงกัสโชสึคุริที่เป็นเอกลักษณ์ หมู่บ้านนี้สวยทุกฤดู แต่ช่วงที่สวยที่สุดคือหน้าหนาวที่มีหิมะปกคลุม
เคล็ดลับพิเศษ : ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศดั้งเดิม แนะนำให้พักโฮมสเตย์ในหมู่บ้าน
6. สวนดอกไม้นาบานะ (Nabana no Sato) – ทุ่งดอกไม้และไฟประดับสุดอลังการ
สวนดอกไม้นาบานะ เป็นที่เที่ยวที่โดดเด่นของไอจิ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว ที่มีการจัด งานประดับไฟ Nabana no Sato Winter Illumination อันยิ่งใหญ่ ไฮไลต์คืออุโมงค์ไฟ LED ที่ยาวกว่า 200 เมตร
เคล็ดลับพิเศษ : การมาสวนดอกไม้นาบานะ ควรจองตั๋วล่วงหน้าและมาช่วงหัวค่ำ เพื่อจะได้ชมไฟประดับในช่วงเวลาที่สวยที่สุด
7. สวนโครังเค (Korankei) – จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในไอจิ
สวนโครังเค ตั้งอยู่ในเมืองโทโยต้า เป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยมีต้นเมเปิลกว่า 4,000 ต้นที่เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลือง
เคล็ดลับพิเศษ : มาช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุด และแวะถ่ายรูปที่สะพานไทเก็ตสึเคียว
8. พิพิธภัณฑ์การรถไฟญี่ปุ่น (SCMAGLEV and Railway Park) – โลกของรถไฟความเร็วสูง
พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงรถไฟความเร็วสูงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีไฮไลต์คือรถไฟแม็กเลฟที่ใช้เทคโนโลยีลอยตัวด้วยแม่เหล็ก
เคล็ดลับพิเศษ : มีโซนให้ลองขับรถไฟจำลองสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
9. เกาะซากุชิมะ (Sakushima) – เกาะศิลปะสุดชิค
เกาะซากุชิมะ เป็นที่เที่ยวสายอาร์ต ที่มีงานศิลปะกลางแจ้งกระจายทั่วเกาะ พร้อมบรรยากาศเงียบสงบริมทะเล
เคล็ดลับพิเศษ : เช่าจักรยานปั่นรอบเกาะจะสะดวกกว่าการเดิน
10. ชายหาดชิราฮามะ (Goza Shirahama Beach) – พักผ่อนชิลๆ ริมทะเล
ชายหาดแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลใสและทรายขาว เหมาะกับการเล่นน้ำและพักผ่อน
เคล็ดลับพิเศษ : หากมาช่วงฤดูร้อน จะได้สัมผัสบรรยากาศงานเทศกาลดอกไม้ไฟริมทะเล
เคล็ดลับการเดินทางและที่พักในไอจิ
- การเดินทางจากไทยไปไอจิ : ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (นาโกย่า) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อมาถึงสนามบินแล้วสามารถนั่งรถไฟด่วน Meitetsu มาลงในเมืองนาโกย่าได้ในเวลาประมาณ 30 นาที สะดวกมากๆ สำหรับคนที่อยากเที่ยวเอง นอกจากนี้หากใครมีแพลนเที่ยวโตเกียวหรือโอซาก้าอยู่แล้ว ก็สามารถนั่งชินคันเซ็นต่อมายังนาโกย่า (ไอจิ) ได้ภายใน 1-2 ชั่วโมงเช่นกัน
- การเดินทางภายในจังหวัดไอจิ : เมืองนาโกย่ามีระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุม ทั้งรถไฟ JR รถไฟเอกชน Meitetsu และรถไฟใต้ดินที่เชื่อมต่อทุกย่านสำคัญ นักท่องเที่ยวอาจซื้อบัตรเหมาวัน (One-day Pass) สำหรับขึ้นรถไฟใต้ดินไม่จำกัดเที่ยว เพื่อความคุ้มค่าในการเดินทางไปยัง ที่เที่ยวในนาโกย่า หลายๆ แห่งในวันเดียว เช่น ปราสาทนาโกย่า ศาลเจ้าอัตสึตะ และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ สำหรับการเดินทางออกนอกตัวเมือง อย่างการไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะหรือสวนโครังเค ซึ่งไม่มีรถไฟถึงโดยตรง อาจใช้บริการรถบัสนำเที่ยวหรือเช่ารถขับก็จะสะดวกกว่า ทั้งนี้ ญี่ปุ่นขับรถพวงมาลัยขวาเหมือนไทย ทำให้การขับรถเที่ยวเองในไอจิไม่ยากเกินไป แต่ควรศึกษากฎจราจรญี่ปุ่นเพิ่มเติมด้วยนะคะ
- ย่านที่พักแนะนำ : หากตั้งใจเที่ยวในเมืองนาโกย่าเป็นหลัก ย่านสถานีนาโกย่า เป็นทำเลทองที่สะดวกสุดๆ เพราะเป็นศูนย์กลางคมนาคม จะนั่งรถไฟไปที่ไหนก็ง่าย และรอบๆ สถานีก็มีห้างใหญ่ ร้านอาหาร และตลาดน้ำพุนาโกย่าให้เดินเล่นตอนค่ำด้วย อีกย่านที่ฮิตคือ ย่านซากาเอะ ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งและบันเทิง มีโรงแรมให้เลือกหลากหลายระดับ ราคาไม่สูงมาก แถมกลางคืนเดินหาอาหารกินหรือแฮงก์เอาท์ได้สนุกสนาน หากใครชอบบรรยากาศคึกคักแนะนำซากาเอะ แต่ถ้าชอบความสะดวกในการเดินทางให้เลือกพักแถวสถานี นอกจากนี้หากมีแพลนไปเที่ยวสวนสนุกเลโก้แลนด์เจแปน (Legoland Japan) หรือพิพิธภัณฑ์รถไฟ SCMAGLEV หลายวัน อาจลองพักโรงแรมแถวสถานี Nagoya Port ก็ได้บรรยากาศติดริมทะเลไปอีกแบบ
จังหวัดไอจิและพื้นที่โดยรอบนาโกย่าเป็นจุดหมายที่ครบเครื่องกว่าที่คิด ไม่ว่าจะสายเที่ยวสายไหนก็มีสถานที่ตอบโจทย์ ทั้ง ที่เที่ยวจังหวัดไอจิ แนวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมอย่างปราสาทและศาลเจ้า สายช้อปและไลฟ์สไตล์ในเมืองใหญ่ที่ย่านซากาเอะ สายธรรมชาติชมดอกไม้ใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนโครังเคหรือหมู่บ้านชิราคาวาโกะ และสายชิลริมหาดเล่นน้ำทะเลสวยๆ ที่ชายหาดชิราฮามะ การเดินทางก็สะดวกทั้งจากไทยและภายในจังหวัด สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเยือนไอจิ หากอยากชมซากุระให้มาปลายมีนาคม-ต้นเมษายน รอบปราสาทนาโกย่าจะงดงามมาก ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุดคือกลางเดือนพฤศจิกายนที่ สวนโครังเค
ส่วนใครชอบอากาศเย็นและอยากชมเทศกาลไฟที่สวนดอกไม้นาบานะ หรือต้องการเห็นหิมะขาวๆ แนะนำช่วงฤดูหนาวเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ (แต่อากาศจะหนาวจัด ควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวให้พร้อม) ขณะที่ฤดูร้อนแม้จะอากาศร้อนอบอ้าว แต่ก็เหมาะกับการเล่นน้ำทะเลและมีเทศกาลดอกไม้ไฟตามที่ต่างๆ รวมถึงอาหารอร่อยตามฤดูกาลด้วยค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ มองเห็นที่เที่ยวจังหวัดไอจิในมุมใหม่ๆ และกล้าวางแผนไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นในจังหวัดนี้กันนะคะ ที่เที่ยวจังหวัดไอจิ ยังมีอีกมากมายรอคุณไปค้นพบ ไม่แน่ว่าทริปหน้าของคุณ ไอจิอาจกลายเป็นจุดหมายสุดประทับใจก็ได้ แล้วไปสัมผัสไอจิด้วยตัวเองกันค่ะ!
และถ้าคุณอยากเที่ยวไอจิแบบสะดวกสบาย ไร้กังวล CompaxWorld พร้อมพาคุณไปสัมผัสไอจิแบบเจาะลึก ด้วยโปรแกรมทัวร์ระดับพรีเมียมที่คัดสรรเส้นทางพิเศษให้คุณได้เที่ยวแบบไม่ซ้ำใคร พักในโรงแรมคุณภาพ อาหารระดับพรีเมียม และการบริการในแบบ Omotenashi ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด
ติดต่อเราได้ที่
โทร. 02-169-1766, 082-793-6146 / 082-793-6166 LINE: @compaxworld
เที่ยวญี่ปุ่นแบบเหนือระดับ เลือก CompaxWorld แล้วคุณจะประทับใจทุกช่วงเวลาของการเดินทาง!