เกียวโต ที่เที่ยวตามรอยวัดเก่าแก่ สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ

เกียวโต เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ที่ผสานความงดงามระหว่างอดีตและปัจจุบันได้อย่างลงตัว เป็นอดีตเมืองหลวงเก่าที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกซอกทุกมุมของเมืองล้วนซ่อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าค้นหา ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามเก่าแก่ที่มีอายุนับพันปี ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ สวนหินแบบเซน หรือย่านเกอิชาที่ยังคงมีให้พบเห็นได้จนถึงปัจจุบัน การได้มาเยือนเกียวโตจึงเปรียบเสมือนการย้อนเวลากลับไปสัมผัสวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของญี่ปุ่นในอดีตได้อย่างแท้จริง


สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

1. วัดคินคะคุจิ (วัดทอง) : สถาปัตยกรรมอันงดงามที่สร้างขึ้นในปี 1397 โดยโชกุนอาชิคางะ โยชิมิสึ เดิมเป็นวิลล่าพักร้อนก่อนกลายเป็นวัดเซนตามพินัยกรรม อาคารหลักสูง 12.8 เมตร มี 3 ชั้นที่แสดงถึงการผสมผสานสถาปัตยกรรม 3 รูปแบบ - ชั้นแรกแบบชิเด็นสไตล์ราชสำนัก ชั้นสองแบบบุเค็นสไตล์ซามูไร และชั้นบนสุดแบบเซน ภายนอกปิดทองคำเปลวสะท้อนแสงอาทิตย์และผืนน้ำในสระเคียวโกะชิได้อย่างงดงาม โดยรอบมีสวนญี่ปุ่นโบราณที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน เหมาะที่สุดสำหรับการเยี่ยมชมในช่วงเช้าตรู่หรือพระอาทิตย์ตกดิน

2. วัดคิโยมิสึ (วัดน้ำใส) : วัดพุทธนิกายโบราณที่สร้างตั้งแต่ปี 778 ตั้งอยู่บนเนินเขาฮิกาชิยาม่า โดดเด่นด้วยระเบียงไม้ที่ยื่นออกจากหน้าผาสูง 13 เมตร สร้างด้วยเทคนิคโบราณโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว จุดเด่นคือน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 สายที่ไหลจากน้ำตกโอโตวะ เชื่อว่าการดื่มน้ำแต่ละสายจะนำมาซึ่งปัญญา สุขภาพ และความรัก ตัววัดสวยงามในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบาน และฤดูใบไม้ร่วงที่ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงสด บริเวณโดยรอบมีร้านค้าแบบดั้งเดิมและร้านขนมพื้นเมืองมากมาย

3. ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ : ศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นในปี 711 มีเอกลักษณ์โดดเด่นคือเสาโทริอิสีแดงสดกว่า 10,000 ต้น เรียงรายเป็นอุโมงค์ยาว 4 กิโลเมตรขึ้นสู่ยอดเขาอินาริ ระหว่างทางมีศาลเจ้าย่อยและรูปปั้นจิ้งจอกขาวซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้าอินาริตั้งอยู่เป็นระยะ นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพรเรื่องธุรกิจการค้า ความอุดมสมบูรณ์ และโชคลาภ เส้นทางเดินสามารถใช้เวลาเดินขึ้นลงประมาณ 2-3 ชั่วโมง

4. วัดเรียวอันจิ : วัดนิกายเซนที่สร้างขึ้นในปี 1450 มีชื่อเสียงระดับโลกจากสวนหินแห้งที่ได้รับการยกย่องว่าสมบูรณ์แบบที่สุดในญี่ปุ่น สวนประกอบด้วยหิน 15 ก้อนวางบนพื้นทรายขาวที่ถูกคราดเป็นลวดลายคลื่น ออกแบบอย่างแยบยลให้ไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็จะเห็นหินเพียง 14 ก้อนเท่านั้น สื่อถึงแนวคิดความไม่สมบูรณ์แบบตามหลักพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังมีสวนมอสและสระน้ำที่สวยงาม เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิและใคร่ครวญชีวิต ควรมาเยี่ยมชมในช่วงเช้าตรู่เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด

การเดินทาง

การเดินทางในเกียวโตมีหลายทางเลือกที่สะดวกสบาย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แนะนำให้ซื้อบัตร Kyoto Bus Pass หรือ Kyoto Sightseeing Pass ที่สามารถใช้ได้ทั้งรถบัสและรถรางในตัวเมือง นอกจากนี้ ยังมีบริการเช่าจักรยานที่หลายจุดในเมือง ราคาประมาณ 1,000-1,500 เยนต่อวัน

สำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลัก มีรถบัสสาย 100 และ 101 ที่วิ่งผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง รวมถึงวัดคินคะคุจิและวัดคิโยมิสึ รถไฟใต้ดินในเกียวโตมีสองสาย คือสาย Karasuma (สีเขียว) และ Tozai (สีแดง) ที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ JR หลัก

ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพราะรถบัสและรถไฟอาจแออัดมาก โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น ช่วงเทศกาลสำคัญอย่างเทศกาลกิออนในเดือนกรกฎาคม จะมีการปิดถนนบางสายและปรับเปลี่ยนเส้นทางรถบัส

สำหรับการเดินทางระหว่างเมือง JR Pass เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปหลายเมือง สามารถใช้กับรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟ JR ทั่วประเทศ รวมถึงสาย JR Nara Line ที่ไปยังศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ

นักท่องเที่ยวที่มีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ สามารถใช้บริการส่งกระเป๋า (Takkyubin) ระหว่างโรงแรมหรือสนามบินได้ ช่วยให้เดินทางสะดวกสบายมากขึ้น การเดินเที่ยวชมในย่านเมืองเก่าอย่างกิออนหรือย่านอาราชิยาม่า ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีในการสัมผัสบรรยากาศดั้งเดิม

ในช่วงฤดูหนาว ควรระวังเรื่องหิมะที่อาจส่งผลต่อการเดินทาง โดยเฉพาะในพื้นที่เขา เช่น วัดคิโยมิสึ ควรเตรียมรองเท้าที่เหมาะสมและเผื่อเวลาเดินทางให้มากขึ้น

เทศกาลสำคัญ

1. เทศกาลกิออน (Gion Matsuri) เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จัดขึ้นตลอดเดือนกรกฎาคม โดยไฮไลท์อยู่ที่ขบวนแห่รถฉลองยามารุ (Yamahoko Junko) ในวันที่ 17 และ 24 กรกฎาคม รถแห่ประดับประดาอย่างวิจิตรงดงามด้วยผ้าทอและโคมไฟ มีการแสดงดนตรีดั้งเดิมบนรถแห่ตลอดขบวน
2. เทศกาลอาโออิ (Aoi Matsuri) จัดขึ้นในวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี เป็นเทศกาลที่สืบทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 มีขบวนแห่ที่ผู้ร่วมขบวนแต่งกายในชุดราชสำนักโบราณ เดินทางจากพระราชวังเกียวโตไปยังศาลเจ้าคาโมะ ชื่อเทศกาลมาจากใบฟูตาบะอาโออิ (ใบไม้สีเขียวอ่อน) ที่ใช้ประดับในพิธี
3. เทศกาลจิดาอิ มัตสึริ (Jidai Matsuri) หรือเทศกาลยุคสมัย จัดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม เป็นการแสดงขบวนแห่ประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นวิวัฒนาการของการแต่งกายและวัฒนธรรมญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเมจิย้อนกลับไปถึงสมัยเฮอัน มีผู้ร่วมขบวนกว่า 2,000 คน แต่งกายตามยุคสมัยต่างๆ
4. เทศกาลฮานามิ (Hanami) เป็นประเพณีชมดอกซากุระที่จัดขึ้นในช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน สวนสาธารณะและวัดต่างๆ เป็นจุดชมซากุระยอดนิยม โดยเฉพาะที่สวนมารุยามะ วัดนินนาจิ และแม่น้ำคาโมะ ผู้คนจะจัดปิกนิกใต้ต้นซากุระ ทานอาหารและดื่มสาเกร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง บางแห่งมีการประดับไฟในยามค่ำคืนเรียกว่า "โยซากุระ"

เคล็ดลับการท่องเที่ยว

1. ควรจองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง

2. เช่าจักรยานเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการเที่ยวชมเมือง

3. ควรแต่งกายสุภาพเมื่อเข้าชมวัดและศาลเจ้า

4. ศึกษาเส้นทางและตารางเวลาเปิด-ปิดของสถานที่ท่องเที่ยว

ฤดูกาลท่องเที่ยว

เกียวโตสวยงามทุกฤดูกาล แต่ละช่วงมีเสน่ห์แตกต่างกัน:

- ฤดูใบไม้ผลิ: ชมซากุระบาน

- ฤดูร้อน: เทศกาลกิออนและการแสดงพื้นบ้าน

- ฤดูใบไม้ร่วง: ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม

- ฤดูหนาว: หิมะปกคลุมวัดวาอาราม

วิถีชีวิตและวัฒนธรรม

เกียวโตยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น

- พิธีชงชา

- การแต่งกายด้วยชุดกิโมโน

- การแสดงของเกอิชา

- งานฝีมือดั้งเดิม

ช้อปปิ้งในเกียวโต

นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อของที่ระลึกได้ที่

- ตลาดนิชิกิ

- ถนนชิโจ

- ย่านอาราชิยาม่า

- ย่านกิออน

การเตรียมตัวก่อนเที่ยว

1. ศึกษาข้อมูลและประวัติของสถานที่ท่องเที่ยว

2. เตรียมรองเท้าที่สวมใส่สบาย เพราะต้องเดินมาก

3. เช็คสภาพอากาศล่วงหน้า

4. พกเงินสดติดตัว เพราะหลายร้านไม่รับบัตรเครดิต

เกียวโตคือหัวใจแห่งวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น เมืองที่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ยังคงรักษาเสน่ห์และความงดงามของสถาปัตยกรรม ประเพณี และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ผ่านเทศกาลต่างๆ ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน

เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลฮานามิจะเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการบานสะพรั่งของดอกซากุระ สร้างบรรยากาศโรแมนติกทั่วทั้งเมือง ตามด้วยเทศกาลอาโออิในเดือนพฤษภาคม ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุคสมัยเฮอันผ่านขบวนแห่อันงดงาม

เมื่อถึงกลางปี เทศกาลกิออนจะสร้างสีสันให้กับเดือนกรกฎาคมด้วยขบวนแห่รถฉลองที่ตระการตา และเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เทศกาลจิดาอิ มัตสึริ จะพาคุณท่องไปในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นผ่านการแต่งกายที่หลากหลายยุคสมัย

นอกจากเทศกาลแล้ว ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดคินคะคุจิ (วัดทอง) วัดเรียวอันจิ ที่มีสวนหินเซนอันโด่งดัง ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ที่มีเสาโทริอิสีแดงนับพันต้น หรือย่านกิออนที่ยังคงมีเกอิชาเดินผ่านไปมา

การได้มาเยือนเกียวโตจึงไม่ใช่เพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นการได้สัมผัสกับจิตวิญญาณของวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ผ่านอาหารท้องถิ่น ศิลปะ การแสดง และผู้คนที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างงดงาม
 

CompaxWorld พร้อมพาคุณสัมผัสประสบการณ์พิเศษนี้ด้วยบริการวางแผนทริปแบบครบวงจร ทั้งที่พักในเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ และแพ็คเกจทัวร์ที่ครอบคลุมทุกเทศกาลสำคัญ พร้อมไกด์ท้องถิ่นที่เชี่ยวชาญ ติดต่อเราวันนี้ที่ LINE: @compaxworld หรือโทร 02-169-1766 เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนแห่งวัฒนธรรมอันน่าหลงใหล