แนะนำ ที่เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวแบบไหน ไปที่ไหนดี
แนะนำ ที่เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวแบบไหน ไปที่ไหนดี 2023-2024
ญี่ปุ่น ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัย สถานที่เที่ยวในญี่ปุ่นก็มีมากมาย หลายรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะชอบธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม หรือความทันสมัย ญี่ปุ่นก็มีให้คุณได้สัมผัสอย่างครบครัน
ถ้าคุณเป็นสายธรรมชาติ ก็มีสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ อุทยานแห่งชาติโยชิโนะ ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ อุทยานแห่งชาติฮอกไกโด ดินแดนแห่งหิมะและน้ำแข็ง หรือหมู่บ้านชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลกที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวในฤดูหนาว
ถ้าคุณเป็นสายประวัติศาสตร์ ก็มีสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดโทไดจิ วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปราสาทฮิเมจิ ปราสาทไม้ที่สวยที่สุดในโลก พระราชวังอิมพีเรียล ศูนย์กลางอำนาจของญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษ หรือวัดคินคะคุจิ วัดทองคำที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ถ้าคุณเป็นสายวัฒนธรรม ก็มีสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นทางวัฒนธรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านชิบูย่า ย่านแฟชั่นและบันเทิงที่มีชื่อเสียง ย่านฮาราจูกุ ย่านแฟชั่นแนวสตรีทที่โดดเด่น ย่านกินซ่า ย่านธุรกิจที่หรูหรา และย่านอาซากุสะ ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามและศาลเจ้า
ถ้าคุณเป็นสายทันสมัย ก็มีสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ทันสมัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโตเกียวทาวเวอร์ หอคอยที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น ดิสนีย์แลนด์และดิสนีย์ซี สวนสนุกระดับโลกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก หรือโอไดบะ เกาะเทียมที่เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิง
ไม่ว่าคุณจะชอบแบบไหน ญี่ปุ่นก็มีให้คุณได้สัมผัสอย่างครบครัน เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของญี่ปุ่นได้เลย
คอมแพ็คเวิลด์ แนะนำที่เที่ยวญี่ปุ่นปี 2023-2024
ในปี 2023-2024 นี้ มีที่เที่ยวญี่ปุ่นที่น่าสนใจหลายแห่ง หากท่านกำลังวางแผนหาที่เที่ยวญี่ปุ่นในปี 2023-2024 บทความนี้จะช่วยแนะนำสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่น่าสนใจและน่าไปเยือน ดังนี้
1. โตเกียว (TOKYO)
กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต บนเกาะฮอนชู เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องความทันสมัยและความเจริญรุ่งเรือง เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ร้านค้า ร้านอาหาร และสถานบันเทิงมากมาย ยามค่ำคืน กรุงโตเกียวจะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟจากตึกรามบ้านช่อง ราวกับเมืองในฝัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความงามของเมืองยามค่ำคืนได้ตามถนนสายต่างๆ เช่น ถนนชิบูย่า ถนนฮาราจูกุ และถนนกินซ่า นอกจากความทันสมัยแล้ว กรุงโตเกียวยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากมาย เช่น วัดอาซากุสะ วัดเซนโซจิ และวัดเมจิ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอันเก่าแก่ได้อย่างเต็มที่
หากคุณต้องการสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของกรุงโตเกียว เมืองแห่งแสงสี ไม่ควรพลาดการมาเยือนเมืองแห่งนี้สักครั้ง
ช่วงเวลาที่แนะนำ
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวโตเกียวคือช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป เหมาะแก่การเดินเล่นชมสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยังมีดอกซากุระบานสะพรั่งไปทั่วเมือง เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
การเดินทาง
การเดินทางภายในโตเกียวสะดวกสบายมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถไฟใต้ดิน หรือรถบัส ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังมีบริการแท็กซี่ให้บริการอีกด้วย
ที่พัก
โตเกียวมีที่พักให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งโรงแรม เกสต์เฮาส์ อพาร์ตเมนต์ ไปจนถึงโฮสเทล นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่พักได้ตามงบประมาณและความต้องการ
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
ตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโตเกียว
- ย่านชินจูกุ (Shinjuku) ย่านธุรกิจและบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และสถานบันเทิงต่างๆ
- ย่านชิบูย่า (Shibuya) ย่านแฟชั่นและช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดดเด่นด้วยสี่แยกชิบูย่าที่มีผู้คนจำนวนมากข้ามถนนพร้อมกัน
- ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) ย่านแฟชั่นแนวแฟชั่นคอสเพลย์และแฟชั่นแนวสตรีท เต็มไปด้วยวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวที่แต่งตัวแปลกตา
- ย่านอาซากุสะ (Asakusa) ย่านประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของญี่ปุ่นดั้งเดิม โดดเด่นด้วยวัดเซนโซจิ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,300 ปี
- ย่านอุเอโนะ (Ueno) ย่านสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ และวัด
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่กล่าวมาแล้ว โตเกียวยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น โตเกียวดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์ซี พิพิธภัณฑ์จิบลิ พระราชวังอิมพีเรียล ตลาดอะเมโยโกะ และอีกมากมาย
2. โอซาก้า (OSAKA)
นครโอซาก้า ตั้งอยู่ในภาคคันไซบนเกาะฮนชู เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น รองจากนครโตเกียว เมืองโอซาก้าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 2.7 ล้านคน โอซาก้าเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ในปัจจุบัน โอซาก้าเป็นเมืองที่มีความทันสมัยและมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปเยือนญี่ปุ่น อย่าลืมแวะไปเที่ยวนครโอซาก้า เพื่อสัมผัสกับเสน่ห์ของเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศญี่ปุ่น
ช่วงเวลาที่แนะนำ
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวโอซาก้าคือช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป เหมาะแก่การเดินเล่นชมสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยังมีดอกซากุระบานสะพรั่งไปทั่วเมือง เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
การเดินทาง
การเดินทางภายในโอซาก้าสะดวกสบายมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถไฟใต้ดิน หรือรถบัส ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังมีบริการแท็กซี่ให้บริการอีกด้วย
ที่พัก
โอซาก้ามีที่พักให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งโรงแรม เกสต์เฮาส์ อพาร์ตเมนต์ ไปจนถึงโฮสเทล นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่พักได้ตามงบประมาณและความต้องการ
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
ตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโอซาก้า
- ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) สัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ
- ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านบันเทิงที่มีชื่อเสียงระดับโลก เต็มไปด้วยป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากมาย
- ตลาดคุโรมอน (Kuromon Ichiba Market) ตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้า มีอาหารทะเลสดๆ และอาหารท้องถิ่นมากมายให้เลือกซื้อ
- สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น (Universal Studios Japan) สวนสนุกธีมปาร์กที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รวบรวมเครื่องเล่นและการแสดงจากภาพยนตร์และการ์ตูนชื่อดังมากมาย
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่กล่าวมาแล้ว โอซาก้ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ศาลเจ้าซูมิโยชิไทฉะ (Sumiyoshi Taisha) ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ย่านอเมริกามูระ (America Mura) และอีกมากมาย
3. เกียวโต (KYOTO)
เกียวโตเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 1,000 ปี ตั้งแต่สมัยเฮอัน จนถึงสมัยเมจิ เมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและศิลปะญี่ปุ่น เต็มไปด้วยวัดวาอารามและศาลเจ้าที่สวยงามมากมาย สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมอันงดงามของญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโตคือวัดคินคะคุจิ หรือวัดทองคำ เจดีย์ทองคำที่งดงามตระการตา สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน วัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO นอกจากนี้ เกียวโตยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น วัดโทไดจิ วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปราสาทนิโจ พระราชวังของจักรพรรดิญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ และย่านกิออน ย่านบันเทิงเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์บรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์
หากใครมีโอกาสได้ไปเยือนญี่ปุ่น เกียวโตเป็นเมืองที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
ช่วงเวลาที่แนะนำ
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเกียวโตคือช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป เหมาะแก่การเดินเล่นชมสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยังมีดอกซากุระบานสะพรั่งไปทั่วเมือง เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
การเดินทาง
การเดินทางภายในเกียวโตสะดวกสบายมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถไฟใต้ดิน หรือรถบัส ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังมีบริการแท็กซี่ให้บริการอีกด้วย
ที่พัก
เกียวโตมีที่พักให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งโรงแรม เกสต์เฮาส์ อพาร์ตเมนต์ ไปจนถึงโฮสเทล นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่พักได้ตามงบประมาณและความต้องการ
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
ตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเกียวโต
- วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji) หรือวัดทอง เป็นหนึ่งในมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากไม้และทองคำ โดดเด่นด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าและหลังคาทรงกลม
- วัดกิออน (Kiyomizu-dera) หรือวัดน้ำใส เป็นวัดที่สร้างขึ้นบนเนินเขา โดดเด่นด้วยระเบียงไม้ที่ยื่นออกไปนอกอาคาร
- ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari-taisha) ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงจากประตูโทริสีแดงกว่า 1,000 บาน
- ย่านอาราชิยาม่า (Arashiyama) ย่านที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น ป่าไผ่อาราชิยาม่า สะพานโทเกสึเคียว และวัดเทนริวจิ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่กล่าวมาแล้ว เกียวโตยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji) วัดเรียวอันจิ (Ryoanji) หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine) และอีกมากมาย
4. ฮอกไกโด (HOKKAIDO)
เกาะฮอกไกโด ดินแดนแห่งธรรมชาติอันงดงาม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อุดมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล ป่าไม้ และน้ำตก ในแต่ละฤดูกาล เกาะฮอกไกโดจะมอบความงดงามที่แตกต่างกันไป
ในฤดูหนาว เกาะฮอกไกโดจะปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน กลายเป็นดินแดนแห่งหิมะและน้ำแข็ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสกี สเก็ตน้ำแข็ง และชมเทศกาลหิมะที่เมืองต่างๆ
ในฤดูใบไม้ผลิ เกาะฮอกไกโดจะเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะทุ่งลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่ง กลายเป็นภาพที่สวยงามราวกับภาพวาด
ในฤดูร้อน เกาะฮอกไกโดจะอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินป่า ชมทะเลสาบ และล่องแพ
ในฤดูใบไม้ร่วง เกาะฮอกไกโดจะเปลี่ยนเป็นสีสันของใบไม้หลากสีสัน กลายเป็นภาพที่สวยงามจับตา
เกาะฮอกไกโดเป็นดินแดนแห่งธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะไปเยือนในฤดูกาลไหน ก็จะได้รับประสบการณ์อันน่าประทับใจอย่างแน่นอน
ช่วงเวลาที่แนะนำ
ฮอกไกโดมีสภาพอากาศแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ฤดูร้อนอากาศจะอบอุ่นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ร่วงอากาศจะเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 0 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ผลิอากาศจะสดใส อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 องศาเซลเซียส
ช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับการท่องเที่ยวฮอกไกโดคือฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง เพราะเป็นช่วงที่อากาศไม่หนาวเย็นจนเกินไป เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เช่น เดินป่า ชมธรรมชาติ
การเดินทาง
- การเดินทางไปยังฮอกไกโดสามารถเดินทางได้โดยเครื่องบิน รถไฟ และรถยนต์
- การเดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที จากสนามบินนาริตะหรือสนามบินฮาเนดะในกรุงโตเกียว ไปยังสนามบินชิโตเซะในซัปโปโร เมืองหลวงของฮอกไกโด
- การเดินทางโดยรถไฟใช้เวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน จากสถานีชินจูกุในกรุงโตเกียว ไปยังสถานีซัปโปโร
- การเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง จากกรุงโตเกียว ไปยังซัปโปโร
ที่พัก
ฮอกไกโดมีที่พักให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งโรงแรม เรียวกัง เกสต์เฮาส์ และโฮสเทล
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ แนะนำให้พักที่เรียวกัง ซึ่งเป็นที่พักแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่มีบริการออนเซ็นหรือบ่อน้ำพุร้อน อาหารญี่ปุ่น และกิจกรรมต่างๆ
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
ฮอกไกโดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้
- ซัปโปโร เมืองหลวงของฮอกไกโด เมืองที่เต็มไปด้วยความทันสมัยและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ สวนสาธารณะโอโดริ หอนาฬิกาซัปโปโร ย่านซุซุกิโนะ
- อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง: อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาหิมะและน้ำแข็ง กิจกรรมยอดนิยม ได้แก่ เดินป่า ชมธารน้ำแข็ง และเล่นสกี
- เขตโอตารุ: เมืองท่าทางตอนใต้ของฮอกไกโด ขึ้นชื่อเรื่องอาคารสไตล์ตะวันตกและท่าเรือโอตารุ กิจกรรมยอดนิยม ได้แก่ ล่องเรือชมเมือง ชมวิวจากหอคอยโอตารุ และเดินเล่นบนถนนสายฮาโกดาเตะ
บทสรุป
ฮอกไกโดเป็นดินแดนแห่งธรรมชาติอันงดงาม เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะชอบธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม หรือความทันสมัย ฮอกไกโดก็มีให้คุณได้สัมผัสอย่างครบครัน
5. ภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji , Fujisan)
ภูเขาไฟฟูจิ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของญี่ปุ่น ยอดเขาที่สูงตระหง่านเหนือพื้นทะเลกว่า 3,776 เมตร มองเห็นได้จากทั่วทุกมุมของประเทศ ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ แต่ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ช่วงเวลาที่แนะนำ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจิคือในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาไฟฟูจิจะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนตัดกับสีเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาไฟฟูจิจะเปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้ม และสีเหลืองอร่ามตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส
การเดินทาง
หากต้องการชมภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกล คุณสามารถเดินทางไปยังจุดชมวิวต่างๆ ที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ เช่น ห้างสรรพสินค้า Fuji Q Highland หรือสถานีรถไฟ Fuji-san Station นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าขึ้นสู่ยอดเขาไฟฟูจิ แต่ควรเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและอุปกรณ์ให้พร้อม เนื่องจากเส้นทางเดินป่าค่อนข้างชันและใช้เวลานาน
ที่พัก
บริเวณรอบๆ ภูเขาไฟฟูจิมีที่พักให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งโรงแรม เกสต์เฮาส์ อพาร์ตเมนต์ ไปจนถึงโฮสเทล นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่พักได้ตามงบประมาณและความต้องการ
หากต้องการชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกจากยอดเขาไฟฟูจิ คุณต้องพักค้างคืนที่บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิ มีที่พักให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่โรงแรมหรูไปจนถึงโฮมสเตย์
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
ภูเขาไฟฟูจิมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ดังนี้
ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาไฟฟูจิ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในทะเลสาบทั้งห้าแห่ง ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงและป่าไม้เขียวขจี นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้จากริมทะเลสาบ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาไฟฟูจิจะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนตัดกับสีเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาไฟฟูจิจะเปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้ม และสีเหลืองอร่ามตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
- สวนสาธารณะโออิชิ (Oishi Park) สวนสาธารณะริมทะเลสาบที่มีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่มีชื่อเสียง
- เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) เจดีย์ห้าชั้นสีแดงสดตั้งอยู่บนเนินเขา มองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน
- หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai) หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ มีชื่อเสียงในเรื่องบ่อน้ำใส 7 บ่อ
ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของภูเขาไฟฟูจิ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทะเลสาบทั้งห้าแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการล่องเรือชมวิวทะเลสาบ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาไฟฟูจิจะสะท้อนเงาลงบนผืนน้ำทะเลสาบเป็นภาพที่งดงาม
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
- สวนสาธารณะนากาอิเคะชินซุย (Nagaike Shinsui Park) สวนสาธารณะริมทะเลสาบที่มีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม
- หมู่บ้านฮาโกเนะ (Hakone Village) หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ มีชื่อเสียงในเรื่องออนเซ็นธรรมชาติ
- สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) สวนสนุกชื่อดังที่มีเครื่องเล่นหวาดเสียวมากมาย
ทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Saiko) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภูเขาไฟฟูจิ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของทะเลสาบทั้งห้าแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมธรรมชาติรอบๆ ทะเลสาบ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาไฟฟูจิจะสะท้อนเงาลงบนผืนน้ำทะเลสาบเป็นภาพที่งดงาม
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
- อุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ (Fuji-Hakone-Izu National Park) อุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมพื้นที่ภูเขาไฟฟูจิและบริเวณโดยรอบ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียง
- น้ำตกชิราอิโตะ (Shirai-to Falls) น้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาหินสีขาว เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น
ทะเลสาบโมโตสุโกะ (Lake Motosuko) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูเขาไฟฟูจิ เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองคาวากุจิโกะ นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้จากริมทะเลสาบ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาไฟฟูจิจะสะท้อนเงาลงบนผืนน้ำทะเลสาบเป็นภาพที่งดงาม
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
- หมู่บ้านคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Village) หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ มีชื่อเสียงในเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงาม
- ฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) สวนสนุกชื่อดังที่มีเครื่องเล่นหวาดเสียวมากมาย
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ในบริเวณภูเขาไฟฟูจิอีกมากมาย เช่น หมู่บ้านทาคาโอะ (Takao Village) เมืองชิซูโอกะ (Shizuoka City) เป็นต้น
หากคุณวางแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมแวะไปชมภูเขาไฟฟูจิและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง รับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่คุ้มค่าและน่าประทับใจอย่างแน่นอน
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับประสบการณ์ที่หลากหลายและประทับใจไม่รู้ลืม หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจท่องเที่ยวญี่ปุ่นหรือกำลังหาสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นนะครับ
สำหรับท่านที่วางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2023-2024
แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นให้ดีก่อนเดินทาง เช่น วัฒนธรรม ภาษา อาหาร การเดินทาง เป็นต้น นอกจากนี้ยังควรเตรียมตัวให้พร้อม เช่น แลกเงินเยนไว้ล่วงหน้า ซื้อบัตร JR Pass ไว้สำหรับเดินทางด้วยรถไฟภายในประเทศญี่ปุ่น เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาล และเรียนรู้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานไว้บ้าง เพื่อช่วยให้การสื่อสารกับชาวญี่ปุ่นง่ายขึ้น
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านที่กำลังหาสถานที่เที่ยวญี่ปุ่น ได้เดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสนุกสนาน และปลอดภัยนะครับ
-------------------------------------------------
COMPAXWORLD คอมแพ็คเวิลด์ ทัวร์ญี่ปุ่น แบบพรีเมี่ยมกับเราวันนี้
"เจาะลึกทุกมุม คุ้มค่าทุกทริป"
เราเน้น ทัวร์ญี่ปุ่น ที่เส้นทางท่องเที่ยวไม่ซ้ำใคร จากทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ด้านญี่ปุ่นมากกว่า 20 ปี
ดูแลลูกค้าทุกท่านอย่างดีตามหลักการ "Omotenashi" ของญี่ปุ่น
โทร. 02 169 1766 / มือถือ 082-793-6146, 082-793-6166
ติดตามข่าวสารของเราได้ที่ Line id : @compaxworld